fbpx
News update

โครงการ “สามประสานร่วมใจไกล่เกลี่ย ช่วยเหลือผู้ประสบภัยโควิด” เพิ่มโอกาสลูกหนี้ SMEs เจรจาหนี้จบก่อนดำเนินคดี

Onlinenewstime.com : ศาลแพ่งพระโขนง และ บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด หรือ SAM ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ในโครงการ “สามประสานร่วมใจไกล่เกลี่ย ช่วยเหลือผู้ประสบภัยโควิด” โดยให้ SAM เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน ในการปรับโครงสร้างหนี้ ให้กับภาคธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 โดยมีวัตถุประสงค์ให้เจ้าหนี้ และลูกหนี้ เข้ากระบวนการเจรจาไกล่เกลี่ยข้อพิพาทให้ได้ข้อยุติ ก่อนเข้าสู่กระบวนการทางศาล พร้อมนำระบบไกล่เกลี่ยออนไลน์มาใช้อำนวยความสะดวก

นายอดุลย์ ขันทอง อธิบดีผู้พิพากษาศาลแพ่งพระโขนง กล่าวว่า โครงการ “สามประสานร่วมใจไกล่เกลี่ย ช่วยเหลือผู้ประสบภัยโควิด” นับเป็นครั้งแรก ที่ศาลยุติธรรมและสถาบันการเงิน ร่วมมือกันให้ความช่วยเหลือภาคธุรกิจ SMEs โดยให้ SAM เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน แนะนำแนวทางในการปรับโครงสร้างหนี้ให้กับลูกหนี้

เพื่อนำไปใช้ประกอบการเจรจากับสถาบันการเงินเจ้าหนี้ ในชั้นไกล่เกลี่ยข้อพิพาทก่อนดำเนินคดี หรือเรียกว่าการไกล่เกลี่ยก่อนฟ้อง ซึ่งโครงการนี้นับเป็นโครงการสำคัญ ที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์การระงับข้อพิพาทตามพระราชบัญญัติการไกล่เลี่ยข้อพิพาท พ.ศ. 2562 และแผนยุทธศาสตร์สำนักงานศาลยุติธรรม พ.ศ.2561-2564 รวมถึงนโยบายของท่านประธานศาลฎีกาอีกด้วย

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คู่กรณีไม่ต้องเสียค่าขึ้นศาลหรือค่าใช้จ่ายอื่นๆ แต่อย่างใด สามารถดำเนินการได้ด้วยตนเอง นอกจากนี้ ด้วยปัจจุบันเป็นศาลยุคดิจิทัล ศาลแพ่งพระโขนง จึงจะนำระบบ “ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทออนไลน์” มาใช้ประกอบการดำเนินโครงการนี้ด้วย เพื่อสนับสนุนการเข้าถึง และการอำนวยความยุติธรรมได้สะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

นายนิยต มาศะวิสุทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด หรือ SAM เปิดเผยว่า SAM รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้เป็นส่วนสำคัญของโครงการ ซึ่งความร่วมมือระหว่าง SAM และศาลแพ่งพระโขนงในครั้งนี้ จะช่วยเปิดโอกาสให้ SMEs ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 มีโอกาสได้รับคำแนะนำ ถึงแนวทางการปรับโครงสร้างหนี้ที่เหมาะสม เพื่อนำไปใช้ประกอบการเจรจาไกล่เกลี่ยข้อพิพาท กับสถาบันการเงินเจ้าหนี้ได้ต่อไป

โดยโครงการนี้จะเริ่มดำเนินการ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนถึงวันที่ 30กันยายน 2563 ซึ่ง SAM จะจัดเจ้าหน้าที่คอยให้คำปรึกษา แนะนำแนวทางการปรับโครงสร้างหนี้ ที่เหมาะสมกับธุรกิจของลูกหนี้แต่ละราย ซึ่งจะเพิ่มโอกาสให้การเจรจากับเจ้าหนี้สถาบันการเงินมีข้อยุติได้โดยเร็ว และช่วยให้ลูกหนี้ SMEs มีโอกาสกลับไปดำเนินธุรกิจ และประกอบอาชีพของตนเองได้ตามปกติต่อไป