Onlinenewstime.com : กรมการแพทย์ โดยสถาบันประสาทวิทยา เตือนประชาชนป้องกันตัวเอง จากโรคหมอนรองกระดูกสันหลังส่วนคอทับเส้นประสาท โดยจะมีอาการปวดกระดูกคอ ปวดบ่า ปวดไหล่ ร้าวลงไปที่แขน มีอาการชาและอ่อนแรง เป็นโรคที่พบได้บ่อยของคนยุคปัจจุบัน ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งโรคของการเจ็บป่วยทรมาน และส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน
นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า โรคนี้เกิดจากความเสื่อมของหมอนรองกระดูกสันหลัง หรือมีการฉีกขาดของเยื้อหุ้มหมอนรองกระดูกสันหลังจากอุบัติเหตุ เช่น การขยับคอผิดจังหวะอย่างรวดเร็วและรุนแรง การก้มหยิบของหนัก การออกกำลังกายแบบหักโหมมากเกินไป
มักเกิดขึ้นกับกระดูกสันหลังบริเวณคอและเอว เนื่องจากเป็นกระดูกไขสันหลังส่วนที่มีการเคลื่อนไหวมากที่สุด ซึ่งมีผลทำให้ชิ้นส่วนของหมอนรองกระดูกสันหลังบางส่วน เคลื่อนหลุดออกมากดทับเส้นประสาทหรือไขสันหลัง ซึ่งอาจจะทำให้ผู้ป่วยมีอาการอ่อนแรง หรือรุนแรงถึงขั้นอัมพาตได้
นายแพทย์ธนินทร์ เวชชาภินันท์ ผู้อำนวยการสถาบันประสาทวิทยา กล่าวเพิ่มเติมว่า อาการผู้ป่วยจะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม อาการของการกดทับเส้นประสาท ผู้ป่วยจะมีอาการปวดต้นคอร้าวไปตามต้นแขน หรือมือ ตรงตำแหน่งที่เส้นประสาทถูกกด ในรายที่มีอาการรุนแรงส่งผลให้แขนหรือมืออ่อนแรงได้
อีกกลุ่มคืออาการของการกดของ ไขสันหลัง จะทำให้ผู้ป่วยขาอ่อนแรง เดินลำบาก ขาตึง ชาตามลำตัว และลามไปขาทั้ง 2 ข้าง ในผู้ป่วยบางราย อาจมีอาการอ่อนแรงของมือร่วมด้วย โดยที่ไม่มีอาการปวดตามขาหรือแขนที่อ่อนแรง ส่วนอาการปวดคออาจจะมีร่วมด้วยหรือไม่มีก็ได้
แพทย์ผู้รักษาจะทำการซักประวัติอย่างละเอียด เพื่อหาสาเหตุ และส่งตรวจด้วยการเอ็กซ์เรย์ ซึ่งสามารถวินิจฉัยโรคได้เกือบทุกราย โดยไม่จำเป็นต้องตรวจพิเศษด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) ยกเว้นผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงต้องทำการผ่าตัด
กรณีผู้ป่วยมีอาการไม่รุนแรง อาจพิจารณาให้การรักษาด้วยยา ร่วมกับการทำกายภาพบำบัด และปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน ในผู้ป่วยบางราย ที่มีอาการปวดมาก อาจใช้เฝือกอ่อนพยุงคอ (soft collar) เพื่อช่วยลดการขยับคอ ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยหายปวดและมีอาการดีขึ้นหรือหายได้
แต่กรณีอาการปวดยังไม่หายและมีอาการอ่อนแรงเพิ่มมากขึ้น แพทย์จะแนะนำการผ่าตัดแก่ผู้ป่วย ซึ่งปัจจุบันได้มีการพัฒนาวัสดุที่ใช้ค้ำบริเวณช่องว่างกระดูกสันหลัง ด้วยวัสดุที่เลียนแบบธรรมชาติของหมอนรองกระดูก ซึ่งสามารถทำให้ขยับ ก้มเงย หมุนคอ และเอียงคอได้เหมือนธรรมชาติ เรียกว่าหมอนรองกระดูกเทียม (artificial disc replacement) โดยสถาบันประสาทวิทยาได้ทำการรักษาวิธีนี้มานาน กว่า 10 ปี และมีเทคนิคการผ่าตัดแบบส่องกล้อง และการผ่าตัดแบบเปิดแผลขนาดเล็ก ซึ่งทำให้ผู้ป่วยเจ็บตัวน้อยลง และฟื้นตัวกลับไปดำเนินชีวิตประจำวันหรือทำงานได้เร็วขึ้น